Friday 14 November 2014

สายใยรักจากสัตว์เลี้ยง สู่มนุษย์

สายใยรักจากสัตว์เลี้ยง สู่มนุษย์
ตอนเลี้ยงสัตว์ทำให้ชีวิตของเรายืนยาวขึ้น
เติมพงศ์ วงศ์ตะวัน


สำหรับวันนี้เราจะมาคุยเรื่อง การเลี้ยงสัตว์ทำให้ชีวิตของเรายืนยาวขึ้นหรือเปล่า ในประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และยุโรปบางประเทศ อายุขัยโดยเฉลี่ยของคนนั้นก็จะประมาณ 80 ปี โดยไม่มีอาการของโรคพิการของอวัยวะต่างๆให้เห็น ส่วนของประเทศไทยนั้นอายุขัยของคนไทยจะต่ำกว่านั้น 10 ปี ก็คือประมาณ 70 ปี ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นมากกว่า 60% ของแต่ละครอบครัวจะมีสัตว์เลี้ยงอยู่ และผู้สูงอายุมากกว่า 14จะเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงครับ
·         จากการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งศึกษาเจ้าของแมวกว่า  4,000 คน ที่เลี้ยงแมวมากว่า 10 ปี พบว่า พวกเขาเหล่านั้นมีจะลดความเสี่ยง 30% ต่อการตายเนื่องจากโรคหัวใจล้มเหลว
·         นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยมิสซูรี (the University of Missouri) พบว่า เจ้าของสุนัขมีแนวโน้มที่จะไม่เป็นโรคความดันโลหิตสูง และโรคไขมันในเลือดสูง
·         ในการศึกษาทางประสาทวิทยาของคนแก่ที่จูงสุนัขเดินทุกวันพบว่า การจูงสุนัขเดินนั้นช่วยให้ระบบประสาทที่เรียกกันว่า parasympathetic nervous system activity ทำงานดีขึ้น ซึ่งระบบประสาทตัวนี้จะช่วยในการทำให้ร่างกายสงบ และพักผ่อนดีขึ้น
·         นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยควีน เบลฟาท (Queens University, Belfast) พบว่าสุนัขช่วยป้องกันไม่ให้เราป่วยได้จากการช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และช่วยให้เราหายป่วยเร็วขึ้น
·         จากการศึกษาผู้เลี้ยงสัตว์ชนิดอื่น เช่น เลี้ยงแมว ปลา นก ก็พบว่า เจ้าของจะมีความดันเลือดที่ต่ำกว่า เครียดน้อยกว่า และเป็นโรคเศร้าซึมน้อยกว่า ในคนที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ใดๆเลย
·         ในสหรัฐอเมริกาพบว่า 40% ของคนชราที่มีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้าน จะไปพบคุณหมอน้อยกว่า คนชราที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์

สำหรับกลไกที่ทำให้การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงช่วยให้เรามีสุขภาพดีขึ้นนั้นอาจจะเกิดจากความสุขกาย สบายใจ และการได้ออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอกับสัตว์เลี้ยง ทำให้เราป่วยน้อยลง ลดโอกาสที่จะเสียชีวิตจากโรคอันตราย เช่น โรคหัวใจล้มเหลว โรคเบาหวาน โรคเครียด เป็นต้น
สำหรับคนชราที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นพบว่า สัตว์เลี้ยงสามารถที่จะกระตุ้นผู้สูงอายุให้มีความกระตือรือร้น และอยากทำกิจกรรมอยู่เสมอ การเลี้ยงสัตว์จะทำให้พวกเขามีความรู้สึกที่จะอยู่ต่อไปในโลกนี้ อาจจะเรียกว่าอยู่เพื่อสัตว์เลี้ยงก็ได้ ในคนชราที่บางคนอาจจะมีโอกาสที่จะพบปะผู้อื่นได้มาก เพราะว่าเพื่อนๆเสียชีวิต หรือญาติพี่น้องอยู่ห่างออกไป หรือไม่แข็งแรงพอที่จะเดินทางบ่อยๆ หรือไกลๆ ก็จะได้สัตว์เลี้ยงนี่แหละคอยเป็นเพื่อน เป็นกำลังใจ ในบางประเทศมีการให้คนที่เกษียรอายุแล้วไปเป็นอาสาสมัครช่วยจูงสุนัขของมูลนิธิที่ดูแลสุนัขไม่มีเจ้าของพบว่า คนชราเหล่านั้นแข็งแรงขึ้น
จากการศึกษาจากผู้เลี้ยงสัตว์หลายชนิดพบว่า การเลี้ยงสุนัขจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าเลี้ยงสัตว์ชนิดอื่นๆ โดย ดอกเตอร์ เดบอรา เวล  (Dr. Deborah Wells) นักจิตวิทยาจาก Queens University, Belfast แห่งประเทศสหราชอาณาจักรก็ยังไม่ค่อยเข้าใจนักว่าทำไมการเลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะน้องหมานั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพเรามาก และดูเหมือนว่าจะดีกว่าเลี้ยงสัตว์ชนิดอื่นด้วย แต่มันก็เป็นไปได้ว่าสุนัขสามารถที่จะช่วยให้เราสุขภาพดีจากช่วยลดความเครียด ช่วยให้เราได้ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เนื่องจากต้องพาน้องหมาออกไปเดิน วิ่งอยู่ทุกวัน ทำให้เราได้รู้จักพบปะผู้คนมากขึ้น เพราะจะมีคนคุยกับเรามากขึ้นเมื่อเห็นเราจูงหมา โดยเฉพาะคนที่เลี้ยงหมาเหมือนกัน
เนื่องจาก ความสัมพันธุ์ ความผูกพันระหว่างสัตว์เลี้ยงกับเจ้าของนั้นมีประโยชน์ในทางสุขภาพ ดังนั้นปัจจุบันจึงได้มีการใช้สัตว์มาช่วยในการรักษา และฟื้นฟูผู้ป่วยในหลายๆโรค ในต่างประเทศนั้นมีกันมานานแล้ว แต่ในประเทศไทยนั้นค่อยที่จะมี่แล้วครับ แต่โดยส่วนใหญ่จะเป็นการรักษาโรคทางสมองในเด็กออทิสติก โดยให้ขี่ม้า ซึ่งเรามักเรียกกันว่า อาชาบำบัด

            เป็นไงบ้างครับ จะเห็นว่าการเลี้ยงสัตว์นั้นจะช่วยให้เรามีอายุยืนยาวขึ้นจริงๆ ไม่ได้โม้เลยครับ ดังนั้นถ้าใครอยากมีอายุยาวๆก็ต้องเลิกอบายมุข และหันมาเลี้ยงสัตว์ครับ แต่ต้องเลี้ยงจริงๆนะครับ เลี้ยงดีๆ อย่าเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ คือให้สัตว์หากินเอง หรือเลี้ยงแบบจ่ายเงินให้คนอื่นเลี้ยง ถ้าเลี้ยงไม่ดีแบบนี้น่ากลัวจะอายุสั้นมากกว่าอายุยาวครับ 

Sunday 8 June 2014

น้องหมา ทำไมจึงหอน...คนเค้ากลัวนะ



เมื่อได้ยินเสียงหมาหอน (ภาษาอังกฤษเรียกว่า Howl) คนไทยส่วนใหญ่จะนึกไปถึง ผ..ผี ครับ จริงๆแล้วก็ไม่ใช่แค่คนไทยนะครับที่เชื่อเช่นนั้น ฝรั่งหลายคนก็เชื่อเหมือนกัน เพราะหากทุกท่านลองดูหนังเรื่องเกี่ยวกับผีฝรั่ง เช่น แดรกคูร่า แวมไพน์ หรือมนุษย์หมาป่า เวลาผีมาหมาก็มักจะหอนเหมือนกัน แล้วท่านผู้อ่านเชื่อหรือไม่ครับว่าหมาหอนเพราะว่ามันเห็นผี วันนี้ผมจะรวบรวมข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ให้ผู้อ่านได้อ่านดูว่ามันเป็นไปได้หรือไม่
            เมื่อถามถึงผู้เชี่ยวชาญเรื่องพฤติกรรมสัตว์เลี้ยงว่าทำไมหมาจึงหอน ส่วนใหญ่ก็ยังหาคำตอบได้ไม่หมด ยังมีอีกหลายเรื่องที่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่รู้ ก่อนอื่นเราต้องไม่ลืมว่าน้องหมาที่เราเลี้ยงอยู่นี้สืบสายพันธุ์จากหมาป่า (Wolf) แล้วถ้าดูในหนังที่มีหมาป่า เช่น มนุษย์หมาป่า จะเห็นว่าหมาป่านั้นจะสื่อสารด้วยการเห่าหอน แต่มันไม่ได้หอนแค่เดือนเพ็ญเหมือนในหนังหรอกนะครับ มันก็หอนทุกวันครับ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการหอนของหมาป่านั้นมี 2 ความหมาย คือ เพื่อประกาศอาณาเขตไม่ให้ตัวนอกฝูงเข้ามาใกล้ และเพื่อนทางให้เพื่อนในฝูงกลับมาให้ถูกทาง
            ในเว็บไซด์ WebMD ซึ่งเป็นเว็บไซด์ให้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์กล่าวว่า การหอนเป็นการสื่อสารทางเสียงของสุนัขทางหนึ่ง
·         โดยอาจจะเป็นการหอนเพื่อเป็นการเรียกร้องดึงดูดความสนใจจากเจ้าของที่ไม่สนใจหรือทิ้งสุนัขไว้ที่บ้านหรือถูกขังไว้ในกรง หรือเป็นการเรียกร้องความสนใจจากสุนัขตัวอื่น โดยเฉพาะยิ่งตอนมีความต้องการในการผสมพันธุ์
·         เพื่อต้องการติดต่อกับตัวอื่น และเพื่อเป็นการแสดงตัวว่าฉันอยู่นี่นะ จะเห็นว่ามักจะเป็นการหอนตามๆกัน
·         เป็นการตอบสนองต่อเสียงแปลกๆ เสียงสูงๆ เช่น เสียงรถหวอ เสียงเพลง เสียงเครื่องดนตรี ซึ่งเราอาจจะพบเห็นได้บ่อย
            ในกรณีที่หอนมากเป็นพิเศษก็จะทำให้ชาวบ้านเขาจะรำคาญเอาได้ ทำให้เราอาจไม่มีครบหรือถูกฟ้องร้อง หรือแจ้งความได้ คราวนี้เราก็ต้องมาดูว่าทำไมน้องหมาจึงหอนมากกว่าปกติ
·         ความเครียดเนื่องจากการถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพัง กรณีนี้ผมเจอมากลับตัวครับ หมาเพื่อนบ้าน เวลาเจ้าของไม่อยู่จะหอนเรียกเจ้าของทั้งวัน พอเจ้าของมาจะยิ่งหอนกว่าเดิมอีกเรียกว่า หอนต้อนรับ เวลาเจ้าของไปทำงานมันก็จะหอนส่ง โชคดีที่เจ้าของไม่ได้ทำงานกลางคืนไม่งั้นคงต้องโดนไล่แน่ครับ เพราะมันคงหอนทั้งคืนไม่ได้นอนกันทีเดียว
·         บางครั้งเมื่อน้องหมาป่วย บาดเจ็บ หรือไม่สบายตัว น้องหมาก็แสดงอารมณ์ด้วยการหอน ออกมา อาจจะเป็นการเรียกเจ้าของ หรือคนอื่นมาดูมัน
            ในการหอนที่มากเกินไปนี่สามารถรักษาได้นะครับ อาจจะทำได้เองโดยเจ้าของโดยดูว่าสาเหตุมาจากอะไร และพอจะแก้ได้อย่างไร เช่น ถ้าเขาเหงา อาจต้องหาของเล่นให้ หรืออาจต้องหาเพื่อนเล่นให้ แต่ถ้าไม่สามารถแก้ไขได้เอง ก็คงจจะต้องทำการรักษากับผู้เชี่ยวชาญเรื่องพฤติกรรมสัตว์เลี้ยงซึ่งบ้านเราก็คงจะมีไม่กี่คน การรักษาก็จมีการการปรับพฤติกรรมร่วมกับการให้ยาเพื่อช่วยปรับพฤติกรรม
            เพราะว่าเรื่องผีสาง นั้นเป็นเรื่องที่มีความเชื่อทีมีกันมานานกับเกือบทุกชนชาติ และทุกศาสนา ซึ่งอาจะเป็นไปได้ว่ามันอาจมีจริง นักวิทยาศาสตร์บางท่านเชื่อว่า ผีหรือวิญญาณเป็นพลังงานอย่างหนึ่ง และพยายามที่จะศึกษามัน แต่การพิสูจน์นั้นค่อนข้างทำได้จำกัด เนื่องจากการตรวจจับสัญญาณของผีนั้นเป็นเรื่องที่ยากเครื่องมือที่เขาใช้กันในทีวีก็เป็นแค่เครื่องตรวจจับพลังงานบางอย่างซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องเป็นผี ดังนั้นการพิสูจน์ว่าหมาหอนเมื่อเห็นผีจึงเป็นเรื่องที่พิสูจน์ยากพอสมควร 
            ข้อมูลจากเว็บไซด์ของ animal planet บอกว่าคนที่เห็นผีนั้นมักจะมีสัมผัสพิเศษ หรือ ซิกเซ้นต์ (sex sense) แต่ในสุนัขสุนัขนั้นคงบอกยากว่ามีซิกเซ้นต์แต่ที่แน่ๆก็คือประสาสสัมผัสของสุนัขจะดีกว่าคนหลายเท่านัก คือมันจะได้ยิน ได้กลิ่น ไกลและไวกว่าคน นอกจากนี้มันจะเห็นกว้างกว่าและไวกว่าคน ในเหตุการณ์ที่จะเกิดอันตรายเช่นซึนามิ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด หรือ น้ำท่วมหนักๆ สัตว์เลี้ยงพวกน้องหมาน้องแมวดูเหมือนจะรู้ตัวก่อน อาจจะหนีก่อน ร้องหรือหอนนานๆผิดปกติเพื่อเตือนภัย        นอกจากนี้เรายังพบว่าสุนัขบางตัวมีความสามารถในการใช้จมูกตรวจโรค เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน
            ดร. มาร์ตี้ มิลเลอร์ (Marti Miller) นักจิตวิทยาสัตว์เลี้ยงจาก เท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริการบอกว่า เขาเชื่อว่า สัตว์เลี้ยงและเจ้าของสัตว์ต่างก็มีซิกเซ้นต์แต่คนมักจะปฏิเสธตนเองว่าไม่มีและไม่ยอมเชื่อมันโดยใช้เหตุผลเข้าประกอบ ในขณะที่สัตว์เลี้ยงตอบสนองตามสัญชาตญาณและมักไม่มีเหตุผล และมันก็ใช้ได้ดีกับหลายเหตุการณ์เพื่อให้ตนเองรอดชีวิตและการตอบสนองต่อปรากฏการเหนือธรรมชาติ สุนัขอาจจะตอบสนองกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติด้วยการสัมผัสได้ถึง ภาพ กลิ่น เสียง อุณหภูมิ ความชื้น ที่คนไม่สามารถสัมผัสได้ หรือสัมผัสได้ไม่ทัน
            จากการศึกษาวิจัยจาก ดร.รูเพิร์ต เชลเดรก (Rupert Sheldrake) ซึ่งเขาได้เขียนผลงานวิจัยของเขาเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ลงในหนังสือเกี่ยวกับความสามารพิเศษของสุนัข ที่ชื่อว่า "Dogs That Know When Their Owners Are Coming Home and Other Unexplained Powers of Animals: An Investigation," เขาสรุปว่าสุนัขมีพลังพิเศษบางอย่างที่ท่านคาดไม่ถึงอีกเยอะ
            เมื่ออ่านจบบทความนี้แล้วท่านผู้อ่านหละคิดเห็นอย่างไร ทำไมน้องหมาที่บ้านท่านจึงหอน...หวังว่าคงจะหาคำตอบกันได้นะครับ

สุนัขสายพันธุ์อะไรที่ฉลาดที่สุดในโลกครับ

ท่านผู้อ่านครับ ท่านคิดว่า สุนัขสายพันธุ์อะไรที่ฉลาดที่สุดในโลกครับ ถามว่าผมรู้ไหม ผมว่ามันตอบยากครับ ขึ้นกับว่าเราใช้หลักเกณอะไรมาวัด ถ้าเอาเรื่องฉลาดแกมโกงละก็ หมาไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกครับ ถ้าเราพิจารณาความฉลาดจากการที่สุนัขสามารถจดจำและเข้าใจการฝึกสอนสายพันธุ์หนึ่งซึ่งถือว่าสุดยอดของโลกก็คือ บอร์เดอร์คอลลี่ (Border Collie) ครับ เพราะจากการศึกษาวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า บอร์เดอร์คอลลี่ ที่ชื่อ เชสเซอร์ เป็นสุนัขที่ฉลาดที่สุดในงานวิจัยของเขา เพราะว่าน้องหมาพันธุ์นี้สามารถที่จะแยก และเข้าใจว่า ศัพท์นี้เป็น นาม ศัพท์นี้เป็น กริยา ในการศึกษาคำกว่าพันธุ์คำในการใช้ออกคำสั่งมัน ว่ากันว่า เชสเซอร์สามารถจำชื่อของเล่นได้ถูกเกือบหมดจากของเล่นทั้งหมดมากกว่าพันชิ้น (ผมว่าตัวผมเองจำชื่อคนได้ร้อยกว่าคนก็เก่งแล้วนะครับ) เชสเซอร์ สามารถที่จะหาของเล่นที่เธอไม่เคยเห็นได้ด้วยการใช้วิธีคัดออกของเล่นที่เธอรู้จักด้วยครับ
คราวนี้นอกจาก บอร์เดอร์คอลลี่แล้วมีสายพันธุ์ไหนอีกที่มนุษย์เรา (พวกชาวตะวันตก) ว่าค่อนข้างฉลาดที่สุดในโลก ดูตามนี้เลยครับ ออสเตรเลียนเคลปี้ (Australian Kelpie) พุดเดิ้ล (Poodle) บูซีรอน (Beauceron)โกลเด้น (Golden Retriever) เจอรแม้นเชฟเพอร์ด (German Shepherd Dog) โดเบอร์แมน (Doberman Pinscher) เชลเตอร์ชีบดอก (Shetland Sheepdog) ปาปิลอน (Papillon) เบลเยียมมาลินอย (Belgian Malinois) ลาบาดอร์ (Labrador Retriever)
สำหรับสายพันธุ์ที่เขาว่าไม่ค่อยฉลาดมากนักก็เห็นจะเป็นพวกนี้ครับ อาฟกันฮาวน์ (Afghan hound) บาเซนจิ (Basenji) บูลดอก (Bulldog) เชาเชา (Chow chow) บอซอย (Borzoi) บลัดฮาวน์ (Bloodhound) ปักกิ่ง (Pekingese)

สรุปว่าสุนัขที่คนเราว่าฉลาดก็คือสุนัขที่เราสามารถทำได้ตามที่เราสั่งนั่นเอง ถ้าเป็นสุนัขที่ฟังคำสั่งได้ดีส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกตระกูล รีทรีฟเวอร์ (Retriever) ส่วนสุนัขที่ค่อนข้างดื้อก็จะเป็นพวกตระกูลเทอรเรีย (Terrier) หรือ ฮาวน์ (Hound) ที่จริงการดื้อก็ไม่ใช่ว่ามันไม่ฉลาด หรือเป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะบางทีสุนัขเหล่านี้จะเหมาะสำหรับใช้นำทางหาของ หรือล่าสัตว์ เพราะมันจะเป็นผู้นำไม่ใช่ผู้ตามที่ดี

รูปสุนัขพันธ์ุ บอร์เดอร์คอลลี่