Monday 22 August 2016

จะทำอย่างไรดีเมื่อสัตว์เลี้ยงเสียชีวิต

จะทำอย่างไรดีเมื่อสัตว์เลี้ยงเสียชีวิต

เติมพงศ์ วงศ์ตะวัน


คนที่รักสัตว์เลี้ยงทุกคนก็ย่อมจะมองเห็นว่าสัตว์เลี้ยงของเราเป็นมากกว่าสัตว์ธรรมดา เพราะว่ารักเราเขามาก เหมือนดัง เป็นเพื่อน เป็นลูก เป็นญาติของเราเอง และเมื่อเกิดการเสียชีวิตของสัตว์เลี้ยง เจ้าของก็ต้องเสียใจเป็นอย่างมากและก็ อยากจะจัดพิธีศพ อยากทำบุญให้ อยากจะมีของที่ระลึกหรือความทรงจำเก็บไว้

เมื่อสัตว์เลี้ยงของเราเสียชีวิต เราควรทำอย่างไรดี ก็มีทางเลือกที่มีอยู่ สี่ อย่าง ในประเทศไทย คือ ฝังเอง ทำพิธีทางศาสนา บริจาคให้คณะสัตวแพทยศาสตร์เพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่ หรือทำสต๊าฟสัตว์

การฝังสัตว์เลี้ยงในที่ดินของตัวเอง เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ห้ามไปฝังในที่คนอื่นหรือที่สาธารณะนะครับ เพราะมันผิดกฏหมาย เมื่อถูกฝังไว้เป็นเวลานาน ร่างกายที่เน่าเปื่อยก็จะกลายเป็นปุ๋ยให้สู่ดิน เจ้าของอาจจะทำการปลูกต้นไม้ หรือดอกไม้ไว้บริเวณที่ฝังเพื่อที่ระลึกถึงสัตว์เลี้ยงที่รัก ที่สำคัญควรจะฝังลึกหน่อยไม่งั้นอาจส่งกลิ่นเหม็นออกมาได้ หรือรังให้สัตว์อืนมาคุ้ยเขี่ย แต่ถ้าในต่างประเทศหลายประเทศจะมีสถานที่ให้ฝังศพสัตว์เลี้ยงให้โดยเฉพาะเรียกว่า Pet CEMETRY หรือสุสานสัตว์เลี้ยงนั่นเอง แต่ในประเทศไทยเท่าที่ทราบอาจจะมีอยู่ที่เดียวที่ยอมให้มีการฝังศพสุนัข (ทำฮวงซุ้ย) ก็คือ ที่วัดหนองแวง จังหวัดขอนแก่น และเรียกบริเวณนั้นว่า “สุสานเพื่อนรัก”

การทำพิธีทางศาสนา หลังจากที่สัตว์เลี้ยงเสียชีวิต เราก็สามารถทำพิธีทางศาสนาได้ ซึ่งเท่าที่เห็นในประเทศไทยก็มีแต่ศาสนาพุทธเท่านั้น หลังจากทำพิธีเสร็จแล้วก็จะนำเอาไปฝัง หรือเผา ก็ถือว่าเป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลครั้งสุดท้ายให้กับสัตว์เลี้ยงที่เรารัก ไม่ใช่ทุกวัดที่จะยอมทำพิธีทางศาสนาให้สัตว์เลี้ยงและยอมให้มีการเผาในวัด ฉะนั้นก็ต้องลองสอบถามวัดแถวบ้านดูนะครับว่า สามารถทำได้ไหม หรือลองค้นหาในอินเตอร์เน็ตดู นอกจากนี้ปัจจุบันมีบริษัทรับจัดงานศพให้สุนัขแบบครบวงจรอยู่หลายบริษัท ถ้าค้นหาจากอินเตอร์เน็ตก็จะมีอยู่หลายบริษัทนะครับ เขาก็จะมีตั้งแต่รับศพมาแช่แข็งเก็บไว้ไม่ให้เปื่อยเน่า แต่งศพ ทำพิธีทางศาสนา เผาศพ ลอยอังคาร มีจัดทำ โลงศพ พวงหรีด และของที่ระลึกให้ แต่ถ้าต้องการจัดการเองแต่กลัวสัตว์เลี้ยงจะเน่าก็คงต้องซื้อตู้แช่แข็งมาไว้เพื่อแช่แข็งสัตว์เลี้ยงไม่ให้เน่าก่อนแล้วค่อยหาเวลาเหมาะสม เพื่อทำพิธีทางศาสนา

การบริจาคร่างกายสัตว์เลี้ยงทีเสียชีวิตให้กับ คณะสัตวแพทยศาสตร์ เพื่อนำไปเป็นอาจารย์ใหญ่ เพื่อใช้สอนนักศึกษาสัตวแพทย์ต่อไป การมอบร่างกายเพื่อเป็นการเรียนการสอนให้กับนักศึกษาสัตวแพทย์ถือว่าเป็นบุญกุศลที่ใหญ่หลวงนัก เพราะสัตวแพทย์จะได้นำความรู้ที่ได้จากการศึกษากับอาจารย์ใหญ่นี้นำไปช่วยชีวิตสัตว์อื่นๆในโลกต่อไป สำหรับการบริจาคให้คณะสัตวแพทยศาสตร์นั้นส่วนใหญ่จะเป็นการบริจาคภายหลังการเสียชีวิตที่โรงพยาบาลสัตว์ของมหาวิทยาลัยเพราะทางเจ้าหน้าที่จะสามารถทำการเก็บรักษาได้ทันท่วงที เพราะถ้าเสียชีวิตมาจากที่อื่นเขาจะไม่รับเพราะร่างกายสัตว์จะเริ่มเน่าแล้ว เมื่อนักศึกษาได้เล่าเรียนกับอาจารย์ใหญ่เสร็จแล้วทางมหาวิทยาลัยก็จะทำพิธีเผาและทำบุญอาจารย์ใหญ่และก็มักจะเชิญเจ้าของมาร่วมทำบุญด้วยทุกครั้ง

การทำสต๊าฟสัตว์ก็คือการนำผิวหนังของสัตว์มาผ่านกรรมวิธีทางเคมีแล้วมาทำเป็นผิวหนังของหุ่นคล้ายของสัตว์ที่เสียชีวิตไป เพื่อเป็นการระลึกถึงตัวสัตว์นั้น ขั้นตอนก็ต้องมีการเลาะเอากล้ามเนื้อและอวัยวะภายในสัตว์ออกให้หมด หลังจากนั้นก็จะยัดวัสดุนุ่มๆเข้าไปแทนกล้ามเนื้อและอวัยวะต่างๆ เจ้าของอาจจะนำเอาส่วนที่ไม่ได้ใช้ทำสต้าฟไปทำพิธีทางศาสนาหรือฝัง ในปัจจุบันที่รับทำสต๊าฟสัตว์เลี้ยงทั้งของเอกชนและรัฐบาล เช่น ในคณะสัตวแพทยศาสตร์ สัตวศาสตร์ บางแห่ง เป็นต้น ในต่างประเทศจะมีบริการการแช่แข็งและทำแห้ง เพื่อให้คงซากสัตว์เลี้ยงไว้ได้นานให้ด้วย วิธีนี้จะคงสภาพสัตว์เลี้ยงให้ดูเหมือนจริงมากกว่าแต่ราคาแพงมากกว่าการสต๊าฟสัตว์ด้วยสารเคมีมาก


การจัดทำของที่ระลึก หรือสิ่งที่ทำให้ระลึกถึงสัตว์เลี้ยงของเรา การทำของที่ระลึกที่ง่ายที่สุดก็คือ เอารูปสัตว์เลี้ยงใส่กรอบ แต่ถ้าอยากใส่รูปไว้มากๆก็ทำเว็บไซด์ หรือเขียนแผ่นลงซีดี หรือคอมพิวเตอร์บันทึกภาพความทรงจำดีๆของคุณกับสัตว์เลี้ยง นอกจากนั้นก็นิยมเก็บเถ้าถ่านของสัตว์เลี้ยงหลังจากการเผามาเก็บไว้ในภาชนะที่เป็นรูปสัตว์ หรือใส่ไว้ในกระถางปลูกต้นไม้ ในต่างประเทศคนเขามักนิยมนำเถ้าถ่านของสุนัขไปให้บริษัทที่รับทำของที่ระลึก เช่น ทำแจกันดอกไม้ หรืออัญมณีเพื่อเป็นเครื่องประดับได้ นอกจากนี้ยังสามารถนำเถ้าถ่านมาเป็นส่วนประกอบของการทำดอกไม้ไฟเพื่อจุดให้ระลึกถึงสัตว์เลี้ยงและมีความเชื่อว่าเพื่อส่งสัตว์เลี้ยงของท่านสู่สวรรค์ได้  การทำอัญมณีจากเถ้ากระดูกนั้นในประเทศไทยเริ่มมีแล้วนะครับ แต่ปกติมักจะทำให้กับเถ้ากระดูกของคนราคาอยู่ที่หลักหมื่นต่อชิ้นครับ เขาเรียกว่า อัฐิมณี (http://www.mindmani.com/) ถ้าเจ้าของสัตว์เลี้ยงท่านใดสนใจก็ลองสอบถามกับบริษัทดูเขาอาจจะรับทำให้กับสัตว์เลี้ยงนะครับ