คิดว่าหลายท่านคงจะชอบดูทีวีกันเกือบทุกคน ท่านเคยสังเกตุไหมว่าสัตว์เลี้ยงที่บ้านท่าน โดยเฉพาะสุนัขนั้นชอบดูทีวีหรือไม่ มันดูรู้เรื่องไหม มันเห็นเหมือนเราหรือเปล่า
ก่อนอื่นผมจะนำท่านไปรู้จักกับ
ช่องทีวี ช่องหนึ่งก่อน นั่นก็คือ Dog
TV หรือ จะเรียกเป็นไทยว่า ทีวีหมาหมา มันเป็นช่องทีวีรายการเกี่ยวกับสุนัขแต่มันแตกต่างจากรายการอื่นๆตรงที่
มันเอาไว้ให้น้องหมาดูไม่ใช่คนดูครับ
หลายๆท่านคงจะบอกว่าสุนัขที่บ้านชอบดูทีวีเหมือนกัน บางคนก็ถึงกับนำดีวีดีหนังเกี่ยวกับสุนัขมาเปิดให้น้องหมาดูกันเลยครับ
เรามาดูกันว่า ช่องทีวีนี้ต่างจากช่องอื่นอย่างไร
- · เป็น on line TV channel เมื่อจ่ายเงินแล้วสามารถให้สัตว์ดูได้ผ่าน internet ครับ http://dogtv.com/
- · ถ่ายเลียนแบบมุมมองของสุนัข กล้องจะตั้งประมาณ 2 ฟุตจากพื้น
- · โปรแกรมจะให้ความสำคัญกับจิตใจสุนัข ให้ความสุข และทำให้ไม่เบื่อ
- · เค้าอ้างว่ามีงานวิจัยพบว่าสุนัขมีความสุขขึ้นเมื่อได้ดูทีวีที่เขาชอบ
- · ราคาประมาณ 300 บาท ต่อเดือน
- · เหมาะสำหรับสุนัขที่ถูกทิ้งไว้ที่บ้าน ขณะที่เจ้าของออกไปทำงาน เพื่อลดความเครียด ความน่าเบื่อ และเพิ่มความอยากรู้อยากเห็น และความบันเทิง
โปรแกรมในช่องทีวีก็มีอยู่ประมาณ
3 โปรแกรม สลับไปสลับมา ครั้ง 3-6 นาที ได้แก่
รายการเกี่ยวกับสร้างการผ่อนคลาย รายการสร้างความตื่นเต้น
และรายการเกี่ยวกับสัตวแพทย์เพื่อให้สัตว์คุ้นเคยกับสัตวแพทย์ ถ้าเป็นที่อเมริกาและอิสราเอลก็จะสามารถดูได้ทางเคเบิลทีวีเลยครับ
และดูจะเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ทิ้งสัตว์ไว้ที่บ้านขณะไปทำงานครับ
ผมเอาลิงค์ตัวอย่างรายการที่ดูได้ทางอินเตอร์เน็ตมาให้ครับ
ท่านสามารถเข้าไปที่เว็บไซด์ youtube
ได้เลยครับ
บริษัทอ้างว่าทำช่องทีวีด้วยหลักการวิทยาศาสตร์โดยพื้นฐานของการมองเห็น
และความสนใจของสุนัข และได้รับคำปรึกษาจากสัตวแพทย์ นักวิทยาศาสตร์
และผู้เชี่ยวชาญการฝึกสุนัข ในทีวีจะไม่มีเสียงเห่า
และคลื่นเสียงที่มีความถี่สูง แต่จะใช้ดนตรีเบาๆ ส่วนสีจะเน้นสีน้ำเงินและเหลือง
เพราะเป็นสีที่สุนัขมองเห็นได้ดีที่สุด
เจ้าของสุนัขหลายคนที่อเมริกาที่ทดลองเปิดให้สุนัขดูมาพักหนึ่งบอกกับผู้สื่อข่าวว่า
สุนัขที่บ้าน ชอบดู บางทีมันก็นอนหลับหน้าทีวี ไม่เห่าโวยวายเหมือนที่ผ่านมา แต่บางคนก็บอกว่าสุนัขของพวกเขาไม่เคยสนใจดูทีวีเลย มูลนิธิสงเคราะห์สัตว์ก็ได้ทดลองเอาไปใช้เหมือนกัน
ก็บอกว่า ส่วนใหญ่สุนัขชอบ บริษัทที่ทำช่องทีวีสุนัขบอกว่า ในอนาคตอาจจะทำช่องทีวีสำหรับแมวครับ
ความเป็นจริงสำหรับการมองเห็นของสุนัข
ในทีวีที่เราเห็นเป็นภาพเคลื่อนไหว
จริงๆแล้วข้อมูลจะส่งมาที่ทีวีเป็นรูปเดี่ยวหลายๆรูป เมื่อทีวีรับข้อมูลมาจะมีการเปลี่ยนจากรูปหนึ่งไปอีกรูปหนึ่งด้วยการสลับเปลี่ยนที่เร็วมากจนเราจะมองเห็นรูปเหล่านั้นเป็นภาพเคลื่อนไหว
โดยปกติถ้าความเร็วในการเปลี่ยนรูป (flickering)
อยู่มากกว่า 55 รูปต่อวินาที (เราจะเรียกว่า 55 Hz) คนเราจะมองเห็นรูปเหล่านั้นเป็นภาพเคลื่อนไหว
แต่ถ้าช้ากว่านั้นเราจะมองเห็นเป็นรูปๆไป
แต่สุนัขจะมีความสามารถในการแยกรูปได้ดีกว่าคนดังนั้นจะต้องใช้ความเร็วในการเปลี่ยนรูปมากกว่านั้น
ซึ่งอาจจะสูงถึง 75 Hz (ในนกจะอยู่ที่ 100 Hz) การที่สุนัขสามารถแยกภาพเคลื่อนไหวได้ดีกว่าคน
ก็เพราะว่าสุนัขมีเซลล์ที่รับแสงและการเคลื่อนไหว (rod cell) ได้มากกว่ามนุษย์นั่นเอง
ที่ผ่านมาระบบของการเปลี่ยนรูปของจอทีวีอยู่ที่ประมาณ
60 Hz ดังนั้นสุนัขไม่น่าจะมองเห็นทีวีเป็นภาพเคลื่อนไหว
หรือจะเห็นก็เห็นเป็นภาพเคลื่อนไหวช้าๆ ไม่เหมือนจริง
อาจทำให้น้องหมาเบื่อที่จะดูทีวี สุนัขบางตัวที่ชอบดูรูปก็จะดู
แต่สุนัขส่วนใหญ่ไม่สนใจรูป
ไม่สนใจอะไรช้าๆ และเนื่องจากสุนัขใช้ประสาทสัมผัสจมูกและหูมากที่สุด มันจึงสนใจในกลิ่นและเสียงมากกว่า
จึงอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้น้องหมาไม่ค่อยสนใจดูทีวีเท่าไร
แต่ในทีวีสมัยใหม่ซึ่งมีการส่งและรับสัญญาณที่ดีขึ้นที่เรามักเรียกว่า
TV HD
(High definition) อัตราความเร็วในการเปลี่ยนรูปอาจจะสูงถึง 1000 Hz ได้ ทำให้สุนัขเห็นเป็นภาพเคลื่อนไหวได้ดีพอๆกับมนุษย์
และยิ่งประเทศไทยกำลังจะเปลี่ยนระบบส่งสัญญาณเป็นดิจิตอล ซึ่งทำให้ภาพมีรายละเอียดสูงขึ้นด้วย
รับรองว่า
สุนัขในประเทศไทยจะมองเห็นภาพเคลื่อนไหวได้เหมือนกับที่เจ้าของของมันมองเห็น
นอกจากนั้น สุนัขไม่ได้มองเห็นสีเหมือนมนุษย์
แต่มันก็ไม่ได้มองเห็นแค่ สีขาว-ดำ เท่านั้น มันมีเซลล์ที่แยกสีได้ (cone cell) แต่มีน้อยกว่ามนุษย์ ทำให้มองเห็นความแตกต่างหรือแยกระดับของสีได้น้อยกว่ามนุษย์
มันจะมองเห็นภาพเป็นสีโทนน้ำเงิน และสีเหลืองครับ
สุดท้ายนี้อยากจะฝากบอกท่านผู้อ่านว่า
ทีวีของสุนัขนั้นก็เป็นแค่เครื่องมือหนึ่งที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดให้กับสุนัขเท่านั้น
สิ่งที่สุนัขนั้นต้องการไม่ใช่ทีวีและสิ่งที่ผ่อนคลายความเครียดให้สุนัขดีที่สุดก็คือเจ้าของนั่นเองครับ
ถ้าคิดว่าตัวเองไม่พร้อม ไม่ค่อยมีเวลาก็แนะนำว่าอย่าพึ่งเลี้ยงครับ
รอให้มีเวลาก่อน และถ้าเลี้ยงไว้แล้วก็อย่าทิ้งเขาให้เหงาอยู่ลำพังนะครับ
ให้เวลากับเขามากๆครับ
No comments:
Post a Comment